Skip to main content

รางวัลโนเบล 2025 - ทีเร็กซ์ (T reg) บอสทหารผู้รักษาสันติของระบบภูมิคุ้มกัน

 

 

 รางวัลโนเบล 2025 - ทีเร็กซ์ (T reg)  บอสทหารผู้รักษาสันติของระบบภูมิคุ้มกัน

แอดมินจะขอเล่าเป็นฉากๆ ใมห้เข้าใจง่าย ไปเลยเริ่ม!!!

🎬 ตอนที่ 1: สงครามในร่างกาย

ในร่างกายของเรามีกองทัพ “ทหารไดโนเสาร์” (ระบบภูมิคุ้มกัน) คอยปกป้องเมืองร่างกายจากศัตรูทั้งหลาย อย่างไวรัส แบคทีเรีย และเซลล์มะเร็ง
กองทัพเราพร้อมบวก มาเลยยยยยย
เห้ยดูเหมือนจะดีแล้วเชียว ศัตรูเข้ามาไม่ได้
.
แต่ปัญหาคือ… บางทีทหารก็ยิงมั่ว!!! แบบว่าบวกเต็มเกียร์ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมละ
ความบวกพุ่งกระฉูด ใครโผล่มาฉันยิงพรุน ถ้า“พลเมืองดี” อย่างเซลล์ร่างกายของเราเองผ่านมาก็คือดับอนาจ
พลเมืองดีที่ว่าก็เช่น ตับ ตา หรือผิวหนังของเราเอง
นี่เลยเป็นจุดเริ่มของ โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง (autoimmune diseases)


🦕 ตอนที่ 2: หัวหน้า T-REG สอนให้ใจเย็น

ในปี 2025 นี้ รางวัล โนเบลสาขาสรีรวิทยาและการแพทย์ 🏅
ตกเป็นของนักวิทยาศาสตร์ 3 ท่าน ได้แก่
Mary Brunkow, Fred Ramsdell, และ Shimon Sakaguchi
ผู้ค้นพบสิ่งที่เรียกว่า Regulatory T cell (Treg) หรือเรียกสั้นๆว่าทีเร็กซ์
เห็นแล้วคิดถึงไดโนเสาร์ตัวบอสเลยอ่ะ

ใช่แล้ววววว ทีเร็กซ์ เปรียบเสมือน “บอสผู้คุมกองทัพให้ไม่ยิงมั่ว”


🧠 ตอนที่ 3: กำเนิดหน่วย ทีเร็กซ์ (Treg)

ทีเร็กซ์ (Treg) คือ “บอสผู้คุมกองทัพ” ของระบบภูมิคุ้มกัน
พวกมันมีหน้าที่ คอยห้ามเพื่อนๆ ทหาร ไม่ให้ทำร้ายคนในเมือง

ถ้าทหารตัวอื่นเริ่มจะยิงพลเมืองดี
Treg จะเข้ามาตะโกนด้วยสัญญาณว่า 
IL-10, TGF-β หรือ CTLA-4 ทันที
จริงๆมันคือสัญญาณทางเคมีที่แปลความง่ายๆ เป็นภาษามนุษย์ว่า
"โว๊ยยยยย หยุดยิงก่อนโว๊ยยยยทุกคนนนนน"
นั่นหล่ะจ่ะ บอสสั่งด้วยโค้ดละ ทุกคนก็จะหยุดยิงโดยดี


🧬 ตอนที่ 4: รหัสลับในตัวทีเร็กซ์

นักวิทยาศาสตร์พบว่า Treg ทุกตัวมีรหัสประจำตัว
คือยีนชื่อว่า FOXP3 (ฟอกซ์ พี 3)
ความว่าบอสทหารนี่เกิดมาแบบบอร์นทูบี
มี FOXP3 ติดตัวมาจากท้องพ่อท้องแม่ 
เป็นผู้ถูกเลือกให้ทำหน้าที่นี้
เหมือนดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง 5555+

.
คือมันต้องมีดาบ เอ้ยยย มียีนนี้เท่านั้นความสามารถนี้ถึงจะเกิด
ถ้ายีนนี้เสียหาย → Treg จะหายไป → ทหารทั้งกองทัพยิงกันเอง 💥

โรคที่เกิดจาก FOXP3 พัง เช่น IPEX syndrome
เด็กที่เกิดมาจะมีอาการภูมิคุ้มกันทำร้ายร่างกายตัวเองอย่างรุนแรง
และนั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์รู้ว่า

“เราทุกคนรอดอยู่ได้ เพราะมี Treg คอยรักษาความสงบไว้”


🏰 ตอนที่ 5: ดาบสองคมของทีเร็กซ์

อะไรที่มากไปก็คือไม่ดี ทีเร็กซ์ก็เช่นกัน ต้องทำงานแบบกลางๆ

  • ถ้า ภูมิคุ้มกันทำงานมากเกินไป → เกิดโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune)

  • ถ้า ทำงานน้อยเกินไป → มะเร็งหรือเชื้อโรคจะรอด

ดังนั้น “หัวหน้าทีเร็กซ์” ต้องบาลานซ์ให้ดี
คอยสั่งทหารให้รู้จักแยกแยะ ว่าใครคือศัตรู ใครคือพลเมืองดี


🏅 ตอนที่ 6: ทำไมถึงได้รางวัลโนเบล

เพราะการค้นพบนี้ เปลี่ยนมุมมองทั้งวงการแพทย์
จากเดิมเราคิดว่า “ภูมิคุ้มกัน = ต้องต่อสู้”
แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่า “ภูมิคุ้มกันที่ดี = ต้องรู้จักยับยั้ง”

นี่คือหัวใจของแนวคิด Peripheral Immune Tolerance (ภูมิคุ้มกันที่ทนต่อสิ่งในร่างกาย)

ถ้าไปฟังคลิปประกาศรางวัลและสัมภาษณ์นะ เค้าจะบอกว่า
“A fundamental discovery about the principle that keeps our immune system in check.
นั่นคือ
การค้นพบว่าระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานอย่างสมดุลได้ยังไง


🌿 สรุปแบบง่ายสุด

“ร่างกายเราไม่แข็งแรงเพราะสู้เก่งอย่างเดียว แต่เพราะรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุด”

ดังนั้นปีนี้ Nobel Prize 2025 สาขาสรีรวิทยาและการแพทย์ จึงขอมอบเหรียญทองให้กับการค้นพบ

🦖✨Treg – บอสทหารผู้รักษาสันติในร่างกายมนุษย์ 🦖✨

Comments

Popular posts from this blog

งานประชุมวิชาการที่บ้าบอและเกรียนที่สุดในโลก

งานประชุมวิชาการที่บ้าบอและเกรียนที่สุดในโลก 5555  คือดู hashtag ที่เค้าใช้   #TheConferenceToEndAllConferences   "งานประชุมที่สับจบทุกงานประชุม"   เปรี้ยวจ๊าดดดดด  (ลองตามใน X/BlueSky ดู  อันนี้ด้วย  #TCTeAC ) ชื่องานจริงๆคือ  Woodstock.Bio 2 + Night Science ตอนแรกตาม X ของ Prof. Rechavi กับ Prof. Yanai แล้วคือ Hashtag นี่ conference นะ แต่ภาพคือคนดีดกีต้าบนเวทีนี่คอนเสิร์ตหรืออิหยัง แปะโปสเตอร์กันกลางป่ากันไปอีก มันจ๊าบมากกกก    ล่าสุดนี่ Nature Career เพิ่งเอามาเล่า (แต่ภาพจ๊าบๆไปตาม hashtag ใน X ได้อีกนะ)  งานนี้รวมทุกสาขาวิชาความว่าตั้งแต่ ชีววิทยาลามไปยัน ฟิสิกส์  รวมตั้งแต่ระดับ นศ ป เอก จนระดับศาสตราจารย์เลย   

💊 โรงงานยามะเร็งไร้ขอบเขต 🏯✨

 💊 โรงงานยาไร้ขอบเขต 🏯✨  เภสัชก็ต้องเรียนออกแบบผัง… แต่ใช้ AutoCAD ไม่เป็นเหมือนกัน 555  การออกแบบผังโรงงานยาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โรงงานยาปกติก็ต้องวาง flow ให้ซับซ้อนเพื่อจัด โซนความสะอาด (cleanroom grade) ให้ถูกต้องอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็น ยาเคมีบำบัด (chemotherapy drugs) ความยากก็เพิ่มขึ้น เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยผู้ทำงาน (worker safety) และการป้องกันสารอันตรายไม่ให้เล็ดลอด และถ้ายาเป็น ชีววัตถุ (biologics) อีกที? ต้องคิดเรื่อง ความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosafety) เข้าไปอีกชั้น ซับซ้อนจนเหมือนเดินอยู่ใน Infinity Castle — เข้าได้แต่หาทางออกไม่เจอ 😅 💡 ตอนเรียนปีนั้น แอดก็เคยต้องทำผังโรงงานยา เพื่อนบางคนได้โรงงานยาธรรมดา เช่น ยาพารา → ชิล ๆ 😌 แต่กลุ่มแอดดันได้โรงงานผลิต ยาเคมีบำบัด เพื่อนส่ายหัวกับหนังสือกองเต็มโต๊ะ 📚 มีเพื่อนสนิทได้ โรงงานผลิต วัคซีน → เจอทั้งแบบแปลน (design) + กฎหมายข้อบังคับ (regulations) เยอะมาก จำได้ว่าโรงงานที่เพื่อนวาด ถูกทุกกฎ จนอาจารย์คอมเมนต์แค่ว่า “เข้าได้ แต่เหมือนเขาวงกต ออกไม่ได้” 🤣 🚪 พอไปฝึกงานจริงที่โรงงานผ...

กระทบไหล่เจ้าของรางวัลโนเบลครั้งนึง ติดใจตลอดไปปปป (Prof.Ada Yonath)

กระทบไหล่เจ้าของรางวัลโนเบลครั้งนึง ติดใจตลอดไปปปป Prof. Ada เจ้าของรางวัลโนเบลเคมี ปี 2009 จากการศึกษาโครงสร้างและหน้าที่ของไรโบโซม ตอนนั้นเรียน Medicinal Chemistry เพิ่งจบไป (นักศึกษาเภสัชต้องเรียนโครงการยาด้วยยยย)  ปิดเทอมปุ๊บลั้ลลาแลปนู้นนี่ เข้าประชุทวิชาการปั๊บ เจอเลยจ้าาาา   ไปนั่งฟัง Prof. คือแบบชัดเลยว่ายามันมุดเข้าซอกไหนของโปรตีน ไปทำให้เซลล์แบคทีเดียเดี้ยงได้ยังไง คือมันจะมียากลุ่มที่ฆ่าแบคทีเรีย (ยาฆ่าเชื้อ) กลุ่มที่ไปจัดการไรโบโซมของแบคทีเรีย (ไรโบโซมคนกับแบคทีเรียไม่เหมือนกันนะ) นั่นแหละจ้าาาา ที่เรียนมาคือเห็นภาพพพพ   คือ Prof. พรีเซ็นเป็นคลิปสวยๆเลย   ด้วยความดีด กลับมหาลัยไป เดินไปก่อกวน อ ที่สอน MedChem เรื่องนั้นอีก อิอิ ว่ามันน่าตื่นตาตื่นใจมากกกกกก ps. ฟัง Prof. Ada มาหลายรอบ สิ่งนึงที่ไม่เปลี่ยนคืออายุหลานสาว Prof ที่นังเด็กเสมอ บางทีก็แอบคิดว่าหลาน Prof อาจจะๆไล่เลี่ยกับเรา #NobelPrize #ScienceEducation #MedicinalChemistry #Ribosomes #Inspiration #AcademicLife #RealWorldLearning